Support
IPC Health Checkup Center
02-713-6715
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

6 โรคฮิตบั่นทอนชีวิตคนเมือง

IPCHealthCheckupCenter | 26-08-2557 | เปิดดู 419 | ความคิดเห็น 0

           ในสภาวะของสังคมเมืองยุคไอทีและเร่งรีบแบบนี้ ทำให้ชีวิตคนเมืองต้องแข่งขันกับเวลาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดความเครียดและปัญหาสะสมมากมาย อีกทั้งสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่เต็มไปด้วยมลพิษจากรถยนต์และอุตสาหกรรมด้วยแล้ว อาจก่อให้เกิดความเสียงโรคต่างๆ ได้ง่าย

 

 

          วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" เลยขอสอดส่อง 6 โรคฮิตที่อาจทำร้ายชีวิตคนเมืองอย่างเราๆ มาฝากกัน กันไว้ดีกว่าแก้นะ … ขอบอก!!!

          1. โรคกระเพาะ โรคที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนทำงานที่มักจะทานข้าวไม่ตรงเวลาหรือไม่มีเวลาทานข้าว ซึ่งเกิดจากในขณะที่ร่างกายมีนาฬิกาชีวภาพอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่น้ำย่อยทำงานกลับไม่มีอาหารตกถึงท้อง ทำให้น้ำย่อยโจมตีเยื่อบุกระเพาะแทน เป็นสาเหตุทำให้คนที่ทานข้าวไม่ตรงเวลามักปวดท้องเนื่องจากท้องว่างนั่นเอง !

          เช็กอาการปวดท้อง แบบไหนใช่โรคกระเพาะ …

          - แผลที่เกิดในลำไส้เล็กส่วนต้น จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องด้านขวาส่วนบน เวลาหิว จะหิวบ่อย

          - แผลที่เกิดในกระเพาะอาหารโดยตรง จะมีอาการปวดท้องเวลาอิ่ม จะรู้สึกแสบๆ เจ็บๆ บริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่

          - ถ้าร้ายแรง อาจทำให้ปวดท้องอย่างหนัก อาเจียนและมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บอกลาโรคกระเพาะ …

          - ผ่อนคลายจิตใจ ด้านความเครียด ความกังวลต่างๆ เพราะนั่นมีผลต่อการกระตุ้นให้กระเพาะสร้างกรดเพิ่มขึ้น มากกว่าปกติ

          - หมั่นออกกำลังกาย ให้กล้ามเนื้อท้องผ่อนคลาย แข็งแรง กระเพาะอาหารก็จะแข็งแรงไปด้วย

          - จัดสรรเวลาการทำงาน หมั่นทานอาหารให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ (ฝึกทานให้เป็นอุปนิสัย)

          2. ไมเกรน โรคฮิตที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่มีความเครียดสูงและมีเวลาจำกัดในการทำสิ่งต่างๆ โดยสาเหตุยังไม่รู้แน่ชัด แต่ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากสมองที่ไวต่อการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่นอกหรือในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดอักเสบและเมื่อมีตัวกระตุ้นมาทำให้หลอดเลือดขยาย จึงเกิดการปวดศีรษะขึ้น

          เช็กอาการปวดหัวแบบไหนกัน ส่อแววเป็นไมเกรน …

          - ปวดศีรษะครึ่งซีกบริเวณขมับหรือท้ายทอย อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้างพร้อมกัน หรือเป็นสลับข้างก็ได้

          - ปวดตุ๊บๆ ในสมองเป็นเวลานาน ครั้งละ 20 นาทีขึ้นไป

          - ปวดศีรษะรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

          - ก่อนปวดศีรษะประมาณ 10-20 นาที บางครั้งอาจมองเห็นแสงเป็นเส้นระยิบระยับสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยว

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดระดับไมเกรน …

          - ผ่อนคลายจากการทำงานโดยอาจหาเวลานั่งพักหลับตาช่วงระหว่างวัน

          - หากิจกรรมสนุกๆ ทำหลังเลิกงาน อย่างเช่น ออกกำลังกาย (ตีแบดฯ,ว่ายน้ำ)

          - นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ปรับพฤติกรรมการกินอยู่ เช่น ลดชา กาแฟ ผงชูรสต่างๆ

 /data/content/25209/cms/e_ajmoqxyz1289.jpg         3. ลำไส้แปรปรวน อีกโรคที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนเมือง เกิดจากการบีบตัวของลำไส้ที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการหลั่งสารหรือฮอร์โมนที่ผิดปกติบางอย่างในผนังลำไส้ ทำให้เกิดการปวดท้องขึ้น รวมทั้งอาจเกิดจากระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า ซึ่งอาจมีตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้น ได้แก่ อาหารที่มีรสเผ็ด เปรี้ยว กาแฟ แอลกอฮอล์และช็อกโกแลต ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ก็ส่งผลต่อลำไส้ด้วยเช่นกัน

          เช็กอาการเบื้องต้น สัญญาณบอกโรคลำไส้แปรปรวน 

          - มีอาการแน่นท้อง อืดท้อง

          - มีอาการปวดแบบเกร็งๆ บริเวณกลางท้องหรือบริเวณท้องน้อย

          - ท้องโตขึ้นเหมือนมีลมอยู่ในท้อง อาจมีอาการเรอหรือผายลมบ่อยๆ

          - ถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับท้องเสีย บางรายรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด อุจจาระมีลักษณะเหลวหรือเป็นมูกร่วมด้วย

          - อาการมักเป็นๆ หายๆ มากน้อยสลับกัน และมีอาการเกิน 3 เดือน

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รับมือโรคลำไส้แปรปรวน 

          - รับประทานอาหารสด สะอาด ครบหมวดหมู่

          - ไม่ควรทานอาหารรสเผ็ด เปรี้ยว

          - ลดเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกฮอล์ให้น้อยลง (ควรหลีกเลี่ยงถ้าเป็นไปได้)

          - หาเวลาพักผ่อนจิตใจ คลายสมอง

          - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน ให้ร่างกายผ่อนคลายและสุขภาพแข็งแรง

          4. โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเงียบที่คนเมืองกรุงไม่ควรมองข้าม ! เนื่องจากอยู่ท่ามกลางมลภาวะเป็นพิษทำให้หลายคนอาจลืมไปว่านั่นเป็นสาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจ อย่าง ปอด หวัด ภูมิแพ้ ไซนัส ที่เราควรต้องระวังเป็นพิเศษ

          เช็กอาการเบื้องต้น โรคเงียบใกล้ตัว ...

          - เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวก

          - ป่วยกระเสาะกระแสะ เหมือนเป็นไข้ตลอดเวลา เช่น คัดจมูก น้ำมูกน้ำตาไหล

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ปลอดจากโรคร้าย …

          - หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลารถติด

          - พักอาศัยในที่ถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงพักอาศัยในเขตชุมชน เขตอุตสาหกรรม ย่านออฟฟิศหรือทาวเวอร์

          - หาเวลาออกไปสูดอากาศนอกเมืองบ้าง

          - ออกกำลังกายเป็นประจำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน

/data/content/25209/cms/e_adhoqsvy3567.jpg          5. กล้ามเนื้อเมื่อยล้า เป็นโรคที่พบอันดับต้นๆ ของมนุษย์เงินเดือน ที่เกิดจากความเมื่อยล้าและความเครียดของกล้ามเนื้อ(รวมถึงกล้ามเนื้อดวงตา) หลังจากการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหน้าคอมฯตลอดทั้งวัน

          เช็กอาการ สัญญาณบ่งบอกความเมื่อยล้า …

          - ปวดข้อกระดูกนิ้วและกระดูกข้อมือ เนื่องจากกดแป้นคีย์บอร์ดและขยับเมาส์ตลอดเวลา

          - กล้ามเนื้อไหล่ตึงและปวด

          - ปวดตาและเริ่มมองเห็นเป็นภาพเบลอๆ

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมไม่ให้ลุกลาม …

          - ขณะนั่งทำงานหาวิธียืดเส้นยืดสายหรือลุกเดินให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้าง

          - หลับตาหรือพักสายตาหรือมองออกไปยังบริเวณต้นไม้ จะช่วยผ่อนคลายสายตาได้เยอะ

          - ปรับอุปกรณ์คอมฯให้เหมาะสมกับสรีระ เช่น ปรับจอมอนิเตอร์ให้ห่างจากตัวอย่างน้อย 16 นิ้ว หรือปรับจอภาพให้อยู่ระดับเดียวกับสายตา

          - จัดสรรเวลาทำงานใหม่ หาเวลาผ่อนคลายความเครียดโดยการเล่นกีฬาบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

          6. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยปัจจัยหลายอย่างด้านความรีบเร่งในการทำงาน รถติดหรือห้องน้ำไม่สะอาด ทำให้สาวๆ เลือกที่จะกลั้นปัสสาวะไว้ แต่รู้ไหมว่าปริมาณน้ำนั้นจะเพิ่มเป็นเท่าตัว ทำให้กระเพาะปัสสาวะบวมขึ้น ! ยิ่งผู้หญิงมีท่อน้ำปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชายด้วยแล้ว เชื้อโรคนี้จึงย้อนกลับเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะและเกิดการติดเชื้อได้

          เช็กอาการ นี่แหละ … กระเพาะปัสสาวะอักเสบ !

          - ปวดปัสสาวะมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน หรือปวดกะปริบกะปรอยต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ

          - ปัสสาวะแล้วแต่รู้สึกเหมือนยังไม่สุด

          - รู้สึกปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ

          - ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น สีจะใส แต่บางรายอาจมีเลือดปน

          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดความเสี่ยงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 

          - เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ ไม่ควรอั้นไว้

          - หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดและท่อปัสสาวะ

          - ดื่มน้ำมากๆ ช่วยในการขับแบคทีเรียที่หลุดเข้ากระเพาะปัสสาวะ

 

ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ

 

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ความคิดเห็น

วันที่: Sat Sep 28 06:28:44 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0